ตอนนี้ ชีวิตใครติดเข็มทิศแล้วบ้างงงง???
เรามีหนังสือเล่มหนึ่งที่อ่านแล้วประทับใจมาก “เข็มทิศชีวิต” ของคุณฐิตินาถ ณ พัทลุง ตอนแรกก็สงสัยว่ามีอะไรดีทำไมคนถึงอ่านกันเยอะมาก จนต้องพิมพ์ถึง 50ครั้ง แต่พอมาอ่านเองแล้วก็ get ที่เราชอบเพราะมันทำให้ชีวิตเรามีความสุขขึ้น ไม่ทำร้ายตัวเองด้วยใจที่ขาดความรู้สึกตัว เราอยากจะเอามุมมองดีๆที่เราอาจเคยเป็นมาแบ่งปันเพื่อนๆ.. อยากให้อ่านน๊า!!!
หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่ได้รับความนิยมสูงมากเล่มหนึ่ง (มีการพิมพ์แล้วกว่า ๕๐ ครั้ง) เหตุที่ได้รับความนิยมมากเป็นเพราะเป็นหนังสือที่อ่านเข้าใจง่าย สถานการณ์ในเรื่องตรงกับประสบการณ์ของคนทุกคน ผู้เขียนสามารถยกตัวอย่างได้เห็นภาพชัดเจน และผู้เขียนสามารถแก้ไขปัญหาชีวิตของท่านเอง คือหนี้สินเกือบร้อยล้าน ได้ในเวลาเพียง ๓ ปี ด้วยการมี “เข็มทิศชีวิต” เมื่อข้าพเจ้าอ่านหนังสือ “เข็มทิศชีวิต” จบแล้ว ข้าพเจ้าได้เรียนรู้สิ่งต่างๆมากมายแต่ สรุปเป็นประเด็นได้ คือ “ความทุกข์ทั้งหลายที่เกิดขึ้นในโลกนี้ ล้วนแต่มีที่มาจากใจที่ไร้ความรู้สึกตัว(สติ)ของเราทั้งสิ้น ดังนั้น หากเราปรารถนาจะมีชีวิตที่เป็นสุข เราจะต้องใช้เข็มทิศชีวิต(สติ)นำทางสู่จุดหมาย เพื่อจะได้ไม่หลงไปจากจุดหมาย” จากประเด็นหลักดังกล่าว สามารถขยายความได้ดังนี้ ในชีวิตแต่ละวันของเราต้องพบเจอกับเหตุการณ์มากมาย มีสุขบ้าง ทุกข์บ้างคละเคล้ากันไป เมื่อเผชิญกับความสุขเราอยู่ได้ ไม่มีปัญหา แต่พอเจอกับความทุกข์ บางคนถึงขนาดกระทำอัตวินิบากกรรมพยายามที่จะหนีความทุกข์ เพราะไม่สามารถรับมือกับความทุกข์ที่เกิดขึ้นได้ หรือบางคนเมื่อผิดหวังในความรัก โดนแฟนทิ้ง บอกว่าเป็นทุกข์ ต้องไปดื่มเหล้าลืมทุกข์ พอดื่มแล้วก็ไปขับรถ ประสบอุบัติเหตุกลายเป็นคนพิการ ขยับตัวไม่ได้ จึงจะรู้สึกว่าทุกข์นี้ยิ่งใหญ่กว่าทุกข์ตอนถูกแฟนทิ้งเสียอีก แต่กว่าจะคิดได้ก็สายเกินแก้เสียแล้ว เหตุที่ต้องมาทุกข์แบบนี้ก็เพราะการดื่มเหล้าเป็นการแก้ปัญหาที่ไม่ถูกจุด ที่แก้ได้ไม่ถูกจุดเพราะเขาขาด “ความรู้สึกตัว-เข็มทิศชีวิต” หรือ ในทางพุทธศาสนาเรียกว่า สติ เลยไม่รู้ว่าจริงๆแล้ว ใจเรานี่หละ ที่ทำให้เกิดทุกข์ ใจเราไปผูกเอาเอง คิดเอาเองว่าเขาเป็น “ของเรา” และจะต้องเป็นไปอย่างที่เราอยากให้เป็น เมื่อไม่ได้ดังหวังก็ทุกข์ หากเรามีสติแต่ต้นเราก็จะคิดได้ว่า “บางครั้งเรายังบังคับตัวเองให้เป็นตามที่เราต้องการไม่ได้เลย แล้วเราจะไปบังคับเขาให้รักเราได้อย่างไร” หรือบางครั้งเขาว่าเราคำเดียว ใจเราก็กลับมาคิดจนเป็นเรื่องใหญ่ ถ้ามีสติเราจะคิดได้ว่า “คนอื่นเขาเอามีดมาแทงเราครั้งเดียว แต่ใจเรานี่หละที่เอามีดมาแทงตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่รู้สึกตัว”
ธรรมชาติของมนุษย์นั้น “รักตัวเอง” ถ้าเรารู้ว่ากำลังทำร้ายตัวเอง เราจะหยุดโดยทันที เมื่อเรากำลังคิดว่าเขาว่าเราอย่างงั้นอย่างงี้ คิดแล้วมันก็ทุกข์ใจ หากว่าเรามีสติ เราก็จะเห็นภาพตัวเรากำลังหยิบมีดขึ้นมาแทงตัวเองซ้ำแล้วซ้ำอีก จะเกิดคำถามว่า คิดแล้วใครเจ็บ? ก็ตัวเรามิใช่หรือ แล้วคิดทำไม? ก็นั่นหน่ะสิ เลิกคิดดีกว่า ด้วยการมีสติจึงสามารถทุเลาทุกข์ลงได้ และจะทำให้เราเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น ลด โลภ โกรธ หลงได้ดี ใจจะสงบและเกิดปัญญาแก้ไขปัญหาได้ อธิบายมาถึงตรงนี้ ท่านคงทราบแล้วว่า การขาดเข็มทิศนั้นส่งผลเสียต่อเราอย่างไร และการมีเข็มทิศประจำใจนั้นช่วยบรรเทาโรคทุกข์ได้มากเพียงใด แต่ยังอาจสงสัยอยู่ว่าแล้วการมีเข็มทิศจะช่วยให้เราถึงจุดหมายคือความสุขในชีวิตโดยไม่หลงทางได้อย่างไร ดังจะมีตัวอย่างเรื่อง “นักบวชกับจีวร” มีเรื่องเล่าว่า มีนักบวชรูปหนึ่งเคร่งภาวนามาก อาจารย์จึงให้ไปภาวนาคนเดียวที่กุฏิชายป่า วันหนึ่งมีหนูมากัดจีวร แทนที่พระจะแก้ปัญหาด้วยตนเอง กลับแก้ด้วยการเอาแมวมาเลี้ยง พอเอาแมวมาเลี้ยงก็ต้องหานมให้แมวกิน พอคร้านหานมให้แมวกินเลยขอวัวชาวบ้านมาเลี้ยง เลยต้องหาหญ้ามาให้วัวกิน แต่ตัวเองก็ต้องภาวนา จึงจ้างหญิงชาวบ้านมาตัดหญ้าเลี้ยงวัว นานวันไปไม่อยากเสียค่าจ้างตัดหญ้า ก็เลยแต่งงานอยู่กินกับหญิงชาวบ้านนั้น เลยต้องสึกออกมาทำมาหากิน
จากตอนแรกที่ตั้งใจบวชเพื่อภาวนา กลับกลายมาเป็นการแต่งงานใช้ชีวิตฆราวาส ที่พลาดไปเพราะนักบวชนักไม่มีเข็มทิศกำกับการเดินทางของท่าน ผ่านไปแต่ละวัน ทิศทางสู่จุดหมายของท่านก็เบี่ยงเบนไปทีละน้อย จนในที่สุดก็พาท่านออกนอกเส้นทางที่ตั้งใจ เฉกเช่นเดียวกับชีวิตของเรา หากเราไม่หมั่นตรวจสอบจุดหมายและทิศทางของเราด้วยเข็มทิศประจำใจ เราก็จะหลงทาง แต่หากเราฝึกสติ รู้สึกตัวเสมอไม่ว่าจะทำอะไร หมั่นเช็คการกระทำสม่ำเสมอจะทำให้เราเดินทางสู่จุดหมายได้อย่างราบรื่นและเป็นสุข
เราก้รู้จักคุนฐิตินาถเหมือนกัน คือ เคยดูตอนเค้ามาออกรายการเจาะใจอะ
ตอบลบละก้ แม่เราก้เคยเปิดเทปที่เค้าเป็นวิทยากรที่ยุวพุทธฯให้ฟัง
รู้สึกว่า เค้ามีสติที่รู้เท่าทันทุกสิ่งทุกอย่าง เข้าใจในความเป็นไปของโลก
ให้เราไม่ยึดติดกับสิ่งต่างๆ ใช้ชีวิตอย่างสมถะ
ละให้ข้อคิดดีมากๆ "สติมา ปัญญาก็เกิด"
เล่มนี้นี่ใช่เล่มที่เคยเล่าให้เค้าฟังป่าวหว่า
ตอบลบว่างๆจาไปหามาอ่านละกัน
เป๊ก...
ตอบลบแอบทางการเนอะ หะหะ
เด๋วจะไปหามาอ่านนะ
แต่ปกติเราไม่ค่อยอ่านหนังสือเครียดแบบนี้อ่ะ
ลองดูๆ
ดูจากเนื้อหาที่เป๊กสรุปแล้ว ก็เป็นหนังสือที่มีประโยชน์มากๆกับชีวิตเรา
ตอบลบช่วยให้คนเดินทางชีวิตผิด เดินทางให้ถูกได้ ไว้ว่างๆจะหามาอ่านละกัน
คุ้นๆแฮะ
ตอบลบเหมือนเคยได้ยินชื่อๆ
น่าอ่านเหมือนกันะเนี่ย
คนอื่นเขาเอามีดมาแทงเราครั้งเดียว แต่ใจเรานี่หละที่เอามีดมาแทงตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าโดยไม่รู้สึกตัว”
ตอบลบเราต้องหามาอ่านบ้างแล้วหละ น่าสนใจมากๆ ขอบคุณนะคะ
เ
เหมือนเคยได้ยินชื่อหนังสืออ่ะ
ตอบลบแต่ยังไม่มีโอกาสได้อ่านเลย
เด๋วต้องไปซื้อมาอ่านซะแร้ว
ดูเป็นหนังสือที่มีเนื้อหาดีมั๊กๆ
หนังสือดี น่าอ่าน
ตอบลบเดี๋ยวเราจะไปซื้อมาอ่านมั่งนะจ๊ะ (ต้องหลังจากล่าฝันก่อน ^^)
สุดยอดไปเลย เป๊ค
ตอบลบหนังสือเข็มทิศชีวิตนี่รู้สึกจะเป็นหนังสือดีนะ
ตอบลบแต่ยังไม่มีโอกาสได้ซื้อมาอ่านเลย
ไปงานหนังสือคราวหน้าจะไปลองหาดูนะเป๊ก
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆครับ
ตอบลบ